แฮรี่ พอตเตอร์ นิยายแห่งโลกจินตนาการของเด็กยุค 90

Harry Potter

เทรนด์ยุค 90 เป็นอะไรที่ตอนนี้หยิบอะไรขึ้นมาก็หวนระลึกได้ตลอด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าเด็กยุค 90 ในตอนนั้นตอนนี้กลายเป็นผู้ใหญ่วัยกลางคนที่พร้อมจะจ่ายเพื่อย้อนกลับไปในเวลาวัยเด็ก วัยรุ่นของพวกเค้าเอง หนึ่งในไอเท็มที่เด็กยุค 90 หลายคนต้องหามาไว้ครอบครองก็คือ หนังสือนวนิยายแฟนตาซีชื่อว่า แฮร์รี่ พอตเตอร์ เรื่องนี้เราอาจจะเคยเห็นในหนังผ่านตามาบ้าง เรื่องนี้สนุกตรงไหน

เรื่องย่อ

เรื่องราวโลกผจญภัยเวทมนตร์ เล่าเรื่องราวของเด็กชายคนหนึ่งชื่อว่า แฮร์รี่ พอตเตอร์ เด็กชายที่รอดชีวิตจากเอาชีวิตจากพ่อมดศาสตร์มือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเวทมนตร์นามว่า ลอร์ดโวลเดอมอร์ แต่เค้าเองก็ต้องเสียพ่อแม่ไปพร้อมกับเหตุการณ์ดังกล่าว หลงเหลือไว้เพียงรอยแผลเป็นรูปสายฟ้าบนหน้าผาก จากนั้นเค้าต้องระเห็จไปอยู่กับป้าที่เค้าไม่เคยมีความสุขเลย จนกระทั่งอายุได้ 13 ปี เค้าก็พบว่าตัวเองไม่ได้เป็นเด็กชายธรรมดาแต่เป็นเด็กที่มีเวทมนตร์ไหลเวียนอยู่ในตัว ทำให้ต้องเดินทางไปเรียนรู้เรื่องราวในโลกเวทมนตร์ จากนั้นการผจญภัยอันน่าเหลือเชื่อ พร้อมกับต่อสู้กับลอร์ดโวลเดอมอร์ที่กลับมาอีกครั้งพร้อมกับอำนาจที่มากกว่าเดิม

เวทมนตร์แห่งการอ่าน

เด็กวัยรุ่นไทยส่วนใหญ่ หากถามว่าจะให้อ่านหนังสือเล่มหนาแม้จะเป็นวรรณกรรมเยาวชน บอกเลยว่ายากมาก แต่เชื่อไหมว่า เจ.เค.โรลลิ่ง ผู้ประพันธ์ เหมือนกับว่าเธอเป็นผู้ใช้เวทมนตร์ของจริง คิดดูว่าเธอสามารถสร้างนิยายที่ทำให้เด็กหลายคนตอนนั้น ยอมเปลี่ยนตัวเองหมกมุ่นอยู่กับการอ่านนวนิยายหลายร้อยหน้าได้แบบไม่ยอมลุกไปไหน เรื่องราวมันต้องสนุกมากจนสามารถดึงดูดให้เราทำในสิ่งนั้นเลย ผู้เขียนเห็นเพื่อนหลายคนในตอนนั้น หนังสือไม่เคยอ่านเลยแต่ แฮร์รี่ กลับสู้ตายอ่านจบในเวลาไม่นาน

โลกจินตนาการ

สิ่งที่ทำให้วัยรุ่น จนถึง วัยทำงานยุค 90 หลงใหลจนติดงอมแงมในโลกเวทมนตร์ก็คือ เจ.เค.โรลลิ่ง ได้สร้างโลกเวทมนตร์แห่งจินตนาการไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบมาก ไม่ว่าจะคาถา เวทมนตร์ แต่ละบทที่น่าสนใจตั้งแต่ชื่อคาถา ผลของคาถา จนต้องเอาไปเสกกันเล่นๆในชีวิตจริง สองไอเทมเวทมนตร์ที่เกิดขึ้นในเรื่องต้องยอมเลยว่ามันอาจจะได้แปลกประหลาดอะไรมาก แต่มันดูเจ๋ง อย่างเต็นท์บ้านเวทมนตร์ของรอน ลูกสนิชในเกมควิดิช และอีกมากมาย

การวางพล็อตอันน่าติดตาม

แม้จะตื่นตาแค่ไหน หากพล็อตไม่ผ่านก็ยากจะติดตามต่อจนจบ การเดินทางมาถึง 8 เล่ม นั่นทำให้ เจ.เค.โรลลิ่ง ต้องวางพล็อตเรื่องไว้เป็นอย่างดี ซึ่งเรื่องนี้แต่ละตอนมีความซับซ้อน พอให้ได้ติดตามแต่ก็ไม่ได้งงงวยจนเกินไปแม้จะอ่านแยกเล่มกันก็พอเข้าใจได้ แบบไม่ต้องกลับไปย้อนอ่าน พร้อมกับการวางพล็อตเล็กๆน้อยๆจากแต่ละเล่ม (ที่เรียกกันว่า easter egg) เพื่อมาประกอบกันเป็นภาพสมบูรณ์ในเล่มสุดท้าย จึงไม่แปลกที่เรื่องนี้จะกลายเป็นวรรณกรรมเยาวชนที่คนวัยรุ่นยุค 90 จะชื่นชอบมากที่สุด หากไม่เคยอ่านแนะนำเลยว่าต้องลอง